วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

เที่ยวเกาะไข่นอก

ใครที่กำลังเหนื่อยล้ากับการเรียน การงาน หรือแม้แต่ความรัก และอยากจะหาที่พักกาย พักใจ เพื่อเติมพลังให้ชีวิตก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้น วันนี้กระปุกดอทคอมใจดี จะพาไปเที่ยวคลายเครียด ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปคลายเครียด ให้เพลิดเพลินสำราญใจนั่นก็คือ "เกาะไข่นอก" เกาะเล็ก ๆ ที่น้ำทะเลใสแจ๋ว หาดทรายขาวละเอียด ตัดกับท้องฟ้าสีคราม แสงแดดส่องกระทบกับน้ำทะเลทอแสงระยิบระยับ นั่นแน่! อยากไปเที่ยวกับเราแล้วใช่มั้ย ถ้างั้นอย่ารอช้า ตามเข้าไปเที่ยว "เกาะไข่นอก" กันเลยดีกว่า…
เกาะไข่นอก เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ที่มีความสวยงามด้วยโขดหิน หาดทรายขาว น้ำทะเลใส ประกอบด้วย 2 หมู่เกาะ ซึ่งมีลักษณะคล้ายไข่ดาวกลางทะเล มีหาดทรายขาวบริสุทธิ์อยู่ด้านหน้าของเกาะ เหมาะแก่การนอนอาบแดด และมีสันทรายเล็ก ๆ เชื่อมต่อไปถึงโขดหินแห่งหนึ่ง บริเวณนี้เป็นจุดที่ดีในการดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ซึ่งมีปะการังมากมายหลากหลายชนิดให้ชม มีปลาสวยงามแหวกว่ายรอให้นักท่องเที่ยวมาให้อาหาร แต่ถ้าใครไม่ได้เตรียมนำอุปกรณ์สำหรับดำน้ำมา บนเกาะมีบริการให้เช่าค่ะ
และรอบเกาะสามารถลงเล่นน้ำได้ น้ำใส แต่ต้องคอยระวังคลื่นลมแรงบ้างเป็นบางวัน ขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ ควรลงเล่นน้ำในด้านที่คลื่นลมสงบ อีกทั้งบนเกาะมีร้านค้าบริการอาหารและเครื่องดื่มแบบง่าย ๆ มีเก้าอี้ผ้าใบสีสันสดใสตัดกับท้องฟ้าสีครามเรียงรายอยู่ตลอดชายหาด ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวให้หลับแดดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่คิดจะไปค้างคืนที่ เกาะไข่นอก ก็สามารถทำได้ แต่บนเกาะไม่มีที่พักไว้บริการ นักท่องเที่ยวที่อยากจะพักแรมต้องนำเต็นท์มากางเอง ซึ่งบนเกาะไม่มีน้ำจืดให้ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจึงชอบที่จะไปตื่นตาตื่นใจชมความสวยของ เกาะไข่นอก เพียงแค่ประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพราะ เกาะไข่นอก เป็นเกาะเล็ก ๆ เดินเล่นแค่ 1 ชั่วโมงก็ครบรอบเกาะแล้ว อีกทั้งยังไม่ค่อยมีร่มเงาไม้ให้พักร้อนจากไอแดดร้อน ๆ มากนัก แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำคัญ เพราะนักท่องเที่ยวอยากไปโลดแล่นอยูท่ามกลางน้ำทะเลใสสะอาด ฝูงปลาตัวเล็ก ๆ มากกว่าอยู่แล้ว
เกาะไข่นอก

อัลบั้ม

ปฎิทินกิจกรรม1111

วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554

Luktung Thai MV Karaoke [MASTER VCD KARAOKE]
Title : Kam Pi Pak Sa
Artist : Takkatan Chonlada
Album : Vol.5 Leug Kam Wa Jeb Keb Wai Kon Dew
Note : This is part 3 of story. You can see part 2 at here!!
http://www.youtube.com/watch?v=MH-X3rzPYEM

วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

สิ่งที่ชอบ

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของภาคอีสานอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้การสนับสนุนฟื้นพูสถานที่ท่องเที่ยวในภาคอีสาน และมีการจัดงานทิวลิปบานเป็นปีแรกของภูฝอยลม และบรรยายกาศที่ภูฝอยลมก็คล้ายภาคเหนือของไทย เราไม่จำเป็นต้องไปภาคเหนือ เราไปที่ภูฝอยลมก็ได้บรรยายกาศของภาคเหนือนแล้ว และทำให้คนในท่องถิ่นมีรายได้จากการท่องเที่ยวเช่น ชาวบ้านมาขายสินค้าหัถตกรรมพื้นบ้านนำมาขายให้นักท่องเที่ยว และจะทำให้คนในท้องถิ่นมีรายได้จากการท่องเที่ยว และเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่น  การที่รัฐบาลเข้ามาส่งเสริมให้ภูฝอยลมเป็นที่ท่องเที่ยวนั้นจะช่วยลดปัญหาการอบพยของผู้คนเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง และจะลดความแออัดในเมืองด้วยเป็นการดีอย่างยิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องของการท่องเที่ยว
ดังนั้นที่ท่องเทียวแห่งใหม่ที่น่าไปเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่งคือ ภูฝอยลม จังหวัดอุดรธานี ถ้าไม่เชื่อลองสัมผัสด้วยตัวเอง  และมีเรือนที่ประทับด้วย ที่นี้อย่าพลาดเด็ดขาดสวยมากค่ะ



ภูฝอยลม เป็นพื้นที่ภูเขาที่มีสภาพอุดมสมบรูณ์อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพันดอน-ปะโค อำเภอหนองแสงจังหวัดอุดรธานี สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 600 เมตร ตั้งชื่อตามชื่อของไลเคนชนิดหนึ่ง ชื่อว่าฝอยลมซึ่งเกาะอาศัยอยู่ตามกิ่งของต้นไม้ใหญ่กระจายอยู่เต็มพื้นที่  ต่อมาได้มีการให้สัมปทานทำไม้และมีราษฎรเข้ามาจับจองและบุกรุกพื้นที่เพื่อจัดตั้งหมูบ้าน จึงทำให้สภาพป่าเริ่มเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ  จนทำให้ฝอยลมเริ่มน้อยลง จนแทบจะหาไม่ได้ในพื้นที่
                ในระหว่างปี 2538-3532 ส่วนราชการต่างๆนำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ในขณะนั้น (นายสายสิทธิ  พรแก้ว) ได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายราษฎร เหล่านั้นอกจากพื้นที่ป่า โดยจัดให้อยู่พื้นที่ใหม่ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบกับการทำลายนิเวศ
                ปี 2533 สำนักงานป่าไม้เขตจังหวัดอุดรธานี ได้จัดอบรมเยาวชน เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ชื่อว่า โครงการเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงทัศนะคติให้คนรุ่นใหม่ได้หันมาสนใจ และเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ต่อมาในปี 2535 ได้ทำการปรับปรุงหลักสูตรและกิจกรรมอบรมให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ละเปลี่ยนชื่อโครงการใหม่เป็น โครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร โดยใช้ชื่อย่อว่า ย.พ.พ.
                ปี 2535 กรมป่าไม้ได้อนุมัติงบประมาณ จัดทำโครงการสวนรวมพรรณป่าไม้ 60 พรรษา มหาราชินี เพื่อเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และเพื่อเป็นแหล่งรวบรวมพันธ์ไม้ป่า ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดจนเป้นสถานที่สำหรบหารศึกษาและพักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดอุดรธานี
                ปี 2541 กรมป่าไม้ได้อนุมัติงบประมาณ จัดทำโครงการ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพันดอน-ปะโค ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นโดยพัฒนาป่าสงวนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
                ปี 2545 ในสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท. ทักษิณ  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยว โดยการนำเสนอและการสนับสนุนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุดรธานี เขต 4 ( นายธีระยุทธ วานิชชัง ) จึงได้รับอนุมัติเงินก่อสร้างบ้านพักห้องน้ำ ศาลาห้องประชุม ศาลาพักผ่อนแหล่งน้ำ และปรับปรุงภูมิทัศน์ในพื้นที่ ให้บริการ และเปลี่ยนชื่อโครงการใหม่เพื่อความสะดวกในการจดจำ และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เป็น โครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ภูฝอยลม ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “ Phu Foilom Ecotourism Project” และในปีเดียวกันนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี (นายชัยพร  รัตนนาคะ)  ได้มีแผนการที่จะพัฒนาพื้นที่ ภูฝอยลม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาค จึงได้หางบประมาณสร้างแหล่งน้ำเพิ่มเติม สร้างถนนลาดยาง และจัดทำโครงการอุทยานก่อนประวัติศาสตร์ และเส้นทางไดโนเสาร์ โดยมรการสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์  ปั้นไดโนเสาร์ชนิดต่างๆ ขนาดเท่าของจริง ปั้นจระเข้และเต่าโบราณ จัดทำหุ่นจำลองและวิวัฒนาการ ของลิงจนกลายเป็นมนุษย์ จัดทำนาฬิกาแดด โดยมีเส้นทางเดินเท้าและการปรับปรุงภูมิทัศน์ในบริเวณโดยรอบ
          ทั้งนี้ ในการจัดสร้างอุทยานก่อนประวัติศาสตร์ดังกล่าว ในเวลาดำเนินการเพียง 96 วัน (ตั้งแต่ วันที่ 1ตุลาคม 2545 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2546)