วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

สิ่งที่ชอบ

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของภาคอีสานอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้การสนับสนุนฟื้นพูสถานที่ท่องเที่ยวในภาคอีสาน และมีการจัดงานทิวลิปบานเป็นปีแรกของภูฝอยลม และบรรยายกาศที่ภูฝอยลมก็คล้ายภาคเหนือของไทย เราไม่จำเป็นต้องไปภาคเหนือ เราไปที่ภูฝอยลมก็ได้บรรยายกาศของภาคเหนือนแล้ว และทำให้คนในท่องถิ่นมีรายได้จากการท่องเที่ยวเช่น ชาวบ้านมาขายสินค้าหัถตกรรมพื้นบ้านนำมาขายให้นักท่องเที่ยว และจะทำให้คนในท้องถิ่นมีรายได้จากการท่องเที่ยว และเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่น  การที่รัฐบาลเข้ามาส่งเสริมให้ภูฝอยลมเป็นที่ท่องเที่ยวนั้นจะช่วยลดปัญหาการอบพยของผู้คนเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง และจะลดความแออัดในเมืองด้วยเป็นการดีอย่างยิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องของการท่องเที่ยว
ดังนั้นที่ท่องเทียวแห่งใหม่ที่น่าไปเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่งคือ ภูฝอยลม จังหวัดอุดรธานี ถ้าไม่เชื่อลองสัมผัสด้วยตัวเอง  และมีเรือนที่ประทับด้วย ที่นี้อย่าพลาดเด็ดขาดสวยมากค่ะ



ภูฝอยลม เป็นพื้นที่ภูเขาที่มีสภาพอุดมสมบรูณ์อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพันดอน-ปะโค อำเภอหนองแสงจังหวัดอุดรธานี สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 600 เมตร ตั้งชื่อตามชื่อของไลเคนชนิดหนึ่ง ชื่อว่าฝอยลมซึ่งเกาะอาศัยอยู่ตามกิ่งของต้นไม้ใหญ่กระจายอยู่เต็มพื้นที่  ต่อมาได้มีการให้สัมปทานทำไม้และมีราษฎรเข้ามาจับจองและบุกรุกพื้นที่เพื่อจัดตั้งหมูบ้าน จึงทำให้สภาพป่าเริ่มเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ  จนทำให้ฝอยลมเริ่มน้อยลง จนแทบจะหาไม่ได้ในพื้นที่
                ในระหว่างปี 2538-3532 ส่วนราชการต่างๆนำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ในขณะนั้น (นายสายสิทธิ  พรแก้ว) ได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายราษฎร เหล่านั้นอกจากพื้นที่ป่า โดยจัดให้อยู่พื้นที่ใหม่ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบกับการทำลายนิเวศ
                ปี 2533 สำนักงานป่าไม้เขตจังหวัดอุดรธานี ได้จัดอบรมเยาวชน เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ชื่อว่า โครงการเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงทัศนะคติให้คนรุ่นใหม่ได้หันมาสนใจ และเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ต่อมาในปี 2535 ได้ทำการปรับปรุงหลักสูตรและกิจกรรมอบรมให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ละเปลี่ยนชื่อโครงการใหม่เป็น โครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร โดยใช้ชื่อย่อว่า ย.พ.พ.
                ปี 2535 กรมป่าไม้ได้อนุมัติงบประมาณ จัดทำโครงการสวนรวมพรรณป่าไม้ 60 พรรษา มหาราชินี เพื่อเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และเพื่อเป็นแหล่งรวบรวมพันธ์ไม้ป่า ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดจนเป้นสถานที่สำหรบหารศึกษาและพักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดอุดรธานี
                ปี 2541 กรมป่าไม้ได้อนุมัติงบประมาณ จัดทำโครงการ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพันดอน-ปะโค ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นโดยพัฒนาป่าสงวนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
                ปี 2545 ในสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท. ทักษิณ  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยว โดยการนำเสนอและการสนับสนุนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุดรธานี เขต 4 ( นายธีระยุทธ วานิชชัง ) จึงได้รับอนุมัติเงินก่อสร้างบ้านพักห้องน้ำ ศาลาห้องประชุม ศาลาพักผ่อนแหล่งน้ำ และปรับปรุงภูมิทัศน์ในพื้นที่ ให้บริการ และเปลี่ยนชื่อโครงการใหม่เพื่อความสะดวกในการจดจำ และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เป็น โครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ภูฝอยลม ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “ Phu Foilom Ecotourism Project” และในปีเดียวกันนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี (นายชัยพร  รัตนนาคะ)  ได้มีแผนการที่จะพัฒนาพื้นที่ ภูฝอยลม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาค จึงได้หางบประมาณสร้างแหล่งน้ำเพิ่มเติม สร้างถนนลาดยาง และจัดทำโครงการอุทยานก่อนประวัติศาสตร์ และเส้นทางไดโนเสาร์ โดยมรการสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์  ปั้นไดโนเสาร์ชนิดต่างๆ ขนาดเท่าของจริง ปั้นจระเข้และเต่าโบราณ จัดทำหุ่นจำลองและวิวัฒนาการ ของลิงจนกลายเป็นมนุษย์ จัดทำนาฬิกาแดด โดยมีเส้นทางเดินเท้าและการปรับปรุงภูมิทัศน์ในบริเวณโดยรอบ
          ทั้งนี้ ในการจัดสร้างอุทยานก่อนประวัติศาสตร์ดังกล่าว ในเวลาดำเนินการเพียง 96 วัน (ตั้งแต่ วันที่ 1ตุลาคม 2545 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2546)
   


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น